โดย นายเกษตร 13 มี.ค. 2557 05:00
มัลเบอร์รี่ หรือ หม่อน ที่ได้รับความนิยมปลูกอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน มีด้วยกัน 2 ชนิด คือ “ไวท์มัลเบอร์รี่” หรือ MORUS MACROURA มีถิ่นกำเนิดจากประเทศ บังกลาเทศ ต้นสูง 2.5-3 เมตร ติดผลดก ผลมีขนาดใหญ่และยาวกว่าผลของหม่อนหรือ “มัลเบอร์รี่” พื้นเมืองอย่างชัดเจน ซึ่งผลอ่อน ของ “ไวท์มัลเบอร์รี่” เป็นสีเขียว รสชาติหวานเล็กน้อย ไม่เปรี้ยว ผลมีขนาดใหญ่คือ ยาว 8–10 ซม. เมื่อสุกเป็นสีขาวอมเหลือง รสชาติหวานจัดมีกลิ่นหอมเหมือนกลิ่นน้ำผึ้งรับประทานอร่อยมาก สามารถปลูกในบ้านเราได้ดี ปลูกลงกระถางติดผลได้ หากปลูกลงดินควรให้น้ำน้อยจะติดผลไม่ขาดต้น
อีกชนิดหนึ่ง คือ “มัลเบอร์รี่ลูกผสม” เคที 1 หรือ MORUS HYBRID นำเข้าจาก ประเทศไต้หวัน ปลูกเติบโตได้ดีในสภาพอากาศบ้านเรา เป็นพันธุ์ที่มีต้นแคระ สูงเต็มที่ไม่เกิน 1 เมตร แตกกิ่งก้านห้อยย้อยลง ผลมีความยาว 4–6 ซม. ผลเป็นสีแดงและแดงเข้ม เมื่อผลสุกเต็มที่จะเป็นสีดำ เหมือนกับสีของผลหม่อนหรือ “มัลเบอร์รี่” พันธุ์พื้นเมืองที่นิยมปลูกทั่วไป แต่ขนาดผลจะใหญ่และยาวกว่า รสชาติขณะผลสุกจะหวานสนิทไม่มีเปรี้ยวเจือปนเลย มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว รับประทานอร่อยไม่แพ้ชนิดแรก ซึ่ง “มัลเบอร์รี่ลูกผสม” เคที 1 จะให้ผลผลิตสูง ติดผลดกสีสันสวยงามยิ่งนัก สามารถปลูกลงกระถางขนาดเล็กติดผลดกได้ ใบอ่อนเด็ดไปตากแห้งทำเป็นใบชาชงดื่ม มีกลิ่นหอมรสชาติดี เป็นที่นิยมทั่วไป จัดเป็นสายพันธุ์ที่ทนต่อโรคแมลงทุกชนิด “มัลเบอร์รี่” ทั้ง 2 ชนิด ถ้า ต้องการให้ติดผลทั้งปี ให้รูดใบแก่ทิ้ง เมื่อแตกใบใหม่จะมีดอกและติดผลทันที
ใครต้องการต้น “มัลเบอร์รี่” ทั้ง 2 ชนิด ติดต่อ “ร้านสวนสุโขทัย” โทร.08–9790–1057 หรือไปซื้อที่ งานเกษตรแฟร์ ม.เกษตรฯ บางเขน กทม. วันที่ 22–30 มี.ค.57 ที่ “ร้านสวนสุโขทัย” โซน เจ 204–207 และที่ตลาดนัดสวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ โครงการ 21 แผง “คุณพร้อม- พันธุ์” ราคาสอบถามกันเองครับ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น